นายตัวร้ายกับยัยรุ่นพี่ - นายตัวร้ายกับยัยรุ่นพี่ นิยาย นายตัวร้ายกับยัยรุ่นพี่ : Dek-D.com - Writer

    นายตัวร้ายกับยัยรุ่นพี่

    เมื่อหนุ่มหล่อระดับเทพอย่างเขาตกหลุมรักพี่สาวของเพื่อนสนิท ดูซิว่าจะเกิดอะไรขึ้น

    ผู้เข้าชมรวม

    320

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    320

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    1
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  25 ม.ค. 52 / 14:52 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ร่างโปร่งระหงในชุดนักศึกษากำลังเดินเข้าไปในซอยเล็กๆ ใกล้กับมหาวิทยาลัยเพื่อไปพบกับน้องชายที่นัดกันไว้ว่าจะช่วยแปลเอกสารให้

      พี่หมอกๆ ทางนี้ เสียงของไอน้ำ น้องชายของเธอดังขึ้นด้านข้าง หมอกใสจึงเดินเข้าไปหาพร้อมรอยยิ้ม

      ไงจ๊ะน้องชาย

      นั่งเลยพี่ ไอน้ำเลื่อนเก้าอี้ให้พี่สาวนั่งก่อนจะเอ่ยแนะนำเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างๆ

      นี่เพื่อนผม ชื่อตูน หมอกใสเลื่อนสายตาไปมองที่ใบหน้าของเพื่อนน้องชายพร้อมยิ้มให้อย่างใจดี

      สวัสดีครับ การ์ตูนก้มหัวให้นิดหนึ่งอย่างให้เกียรติ แต่ดวงตากลับพราวระยับ

      จ้ะ หมอกใสรับคำยิ้มๆ ก่อนจะหันกลับไปมองหน้าน้องชาย แล้วโดดเรียนมาหรือไง

      เปล่านะพี่หมอก ผมไม่ได้โดด ก็แค่เอาเอกสารมาให้พี่หมอกเสร็จแล้วก็จะกลับ ไอน้ำแก้ตัว แต่หมอกใสจะเชื่อหรือก็ไม่

      น่าเชื่อถือจังเลย

      แหม...พี่หมอก

      คุณพี่ทานข้าวกลางวันหรือยังครับ? การ์ตูนถามแทรกขึ้น หมอกใสจึงหันไปตอบ

      เรียบร้อยแล้วจ้ะ

      ว้า... เสียดายจัง ผมว่าจะเลี้ยงข้าวคุณพี่ซะหน่อย การ์ตูนบอกพร้อมกับจับจ้องไปที่ใบหน้าของหมอกใสด้วยความชื่นชมอย่างไม่คิดจะปิดบัง

      ขอบใจนะ แต่พี่ทานมาแล้ว ว่าแต่ไหนล่ะเอกสารที่จะให้พี่แปล? ประโยคหลังหันไปถามกับน้องชาย

      นี่ครับ ไอน้ำยื่นซองเอกสารให้ ผมต้องรีบกลับแล้วนะพี่หมอก

      อืม ไปเถอะ เดี๋ยวเสียการเรียน

      ไปไอ้ตูน ไอน้ำหันไปบอกเพื่อน แต่การ์ตูนก็ยังไม่ลุกจากที่นั่ง ซ้ำยังมองหน้าหมอกใสอย่างที่ใครเห็นแล้วก็ต้องเขิน หมอกใสเองก็เช่นเดียวกันรู้สึกได้เลยว่าใบหน้าเริ่มร้อนเพราะสายตาคู่นั้น

      ที่จริงผมก็อยากอยู่คุยกับคุณพี่ก่อนนะครับ แต่ว่าต้องกลับไปเรียน การ์ตูนบอกพลางยิ้มพรายทั้งหน้า

      ไปเรียนเถอะ

      งั้นผมไปก่อนนะครับคุณพี่ พูดจบก็ถูกไอน้ำล็อคคอแล้วลากออกไปจากร้านกาแฟโบราณ หมอกใสมองตามพลางยิ้มอย่างขบขัน ดูก็รู้ว่านายตูน เพื่อนของน้องชายคิดยังไงกับเธอ พนันกับตัวเองในใจได้เลย ไม่เกินพรุ่งนี้จะต้องได้คุยกับเพื่อนน้องชายคนนี้อีกแน่ๆ

      ท่ามกลางความเงียบยามค่ำคืน เสียงโทรศัพท์มือถือเครื่องเล็กที่วางอยู่บนหัวเตียงดังขึ้น ปลุกให้หมอกใสต้องลุกขึ้นมารับ

      สวัสดีค่ะ กรอกเสียงลงไปด้วยน้ำเสียงงัวเงียทั้งที่ยังไม่ลืมตา

      (หวัดดีครับคุณพี่ นี่ตูนเองนะ) เสียงปลายสายตอบกลับมาอย่างร่าเริง หมอกใสยิ้มออกมานิดหนึ่งอย่างขบขัน ตาสว่างขึ้นมาทันที

      ว่ายังไง ว่างนักหรือไงเราน่ะ

      (ไม่ว่างหรอกครับ กำลังคิดถึงคุณพี่อยู่)

      ซึ้งมากเลย

      (จริงๆ นะ คุณพี่อย่าทำเสียงเหมือนไม่เชื่ออย่างนั้นสิ) การ์ตูนพูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจ

      ก็มันน่าเชื่อมั้ยล่ะ เป็นเด็กเป็นเล็ก ทำไมไม่ตั้งใจเรียน

      (โธ่ คุณพี่ก็ไม่ได้แก่กว่าผมสักเท่าไหร่เลย)

      สองปี

      (ก็แค่สองปีเอง อายุมันเป็นแค่ตัวเลข คุณพี่ไม่เคยได้ยินเหรอ) ได้ยินอย่างนั้นหมอกใสเลยไม่เถียง คนปลายสายจึงถามต่อ (คุณพี่มีแฟนหรือยัง?)

      ถามทำไม

      (ผมก็ต้องถามไว้ก่อนไง เพราะถ้าคุณพี่ยังไม่มีแฟน ผมจะได้ไม่แห้ว แล้วก็จีบคุณพี่ต่อไป)

      แล้วถ้าพี่มีแฟนแล้วล่ะ

      (ผมก็จะทำทุกอย่างเพื่อให้คุณพี่มาเป็นแฟนผมให้ได้) บอกอย่างมั่นใจ แต่หมอกใสไม่ค่อยเชื่อนัก

      เด็กน้อย

      (อะไรกัน ผมเด็กกว่าคุณพี่สองปีเองนะ)

      เอ้าๆ ไม่เด็กก็ได้

      (ตกลงว่าคุณพี่มีแฟนหรือยังล่ะ?)

      ไม่มีหรอก พี่ยังไม่คิดเรื่องนี้

      (แต่ผมว่าตอนนี้ก็น่าจะคิดได้แล้วนะครับ)

      ไม่ล่ะ พี่ไม่ชอบเลี้ยงต้อย หมอกใสบอกยิ้มๆ

      (ผมก็ไม่ได้เป็นต้อยให้คุณพี่เลี้ยงสักหน่อย ผมเลี้ยงคุณพี่เองก็ได้)

      ไม่ต้องหรอก พี่ดูแลตัวเองได้

      (คุณพี่อย่าเรียกตัวเองว่าพี่สิครับ)

      แล้วจะให้เรียกอะไรล่ะ?

      (ก็... เรียกฉันก็ได้ ฟังดูใกล้ชิดกว่าพี่ตั้งเยอะ)

      อยากใกล้ชิดว่างั้น

      (ใช่ครับ ผมอยากใกล้ชิดคุณพี่) คำตอบตรงๆ ของตูนทำเอาหมอกใสถึงกับอึ้งไปชั่วขณะก่อนจะบอก

      ทีนายยังเรียกฉันว่าพี่เลย

      (ผมไม่ได้เรียกว่าพี่ แต่ผมเรียกคุณพี่ต่างหาก)

      แล้วมันต่างกันมั้ย?

      (ช่างมันเถอะ ว่าแต่คุณพี่ไม่มีแฟน งั้นผมจะจีบคุณพี่แล้วนะ)

      ว่าง่ายนี่

      (จริงๆ นะ ผมชอบคุณพี่นะ มันเหมือนกับรักแรกพบไง) บอกด้วยน้ำเสียงจริงใจหวังจะให้อีกฝ่ายซึ้ง แต่หมอกใสกลับไม่คิดเช่นนั้น ตอบกลับไปเสียงเรียบ

      ก็ตามใจนะ อยากจะคิดยังไงก็เชิญ แต่สำหรับฉัน บอกได้เลยว่าฉันยังไม่คิดถึงเรื่องนี้

      (ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมจะทำให้คุณพี่คิดเอง) หมอกใสไม่ตอบเพราะกำลังยิ้มกับความคิดง่ายๆ ของนายตูน

      (ผมไม่รบกวนคุณพี่แล้วดีกว่า ฝันดีนะครับ)

      อืม ฝันดี พูดจบก็กดวางสายแล้วล้มตัวลงนอน ก่อนจะหลับไปในที่สุด

      คุณพี่คร้าบบบ เสียงตะโกนดังขึ้นทันทีที่หมอกใสก้าวขาเข้าไปในบ้าน การ์ตูนเดินยิ้มร่าออกมาหา

      นายเองเหรอ

      ครับ ผมเอง ทำไมคุณพี่กลับช้าจัง

      งานเยอะ หมอกใสตอบสั้นๆ ก่อนจะเดินไปรินน้ำใส่แก้ว

      ไอน้ำอยู่ข้างบน การ์ตูนบอกเมื่อเห็นหมอกใสหันซ้ายหันขวา

      แล้วนายมาทำอะไร

      ทำไมคุณพี่ถามแบบนี้ล่ะ ผมก็มาหาคุณพี่ไง การ์ตูนบอกพร้อมยิ้มกว้าง

      มาหาฉัน? หมอกใสชี้มาที่ตัวเองก่อนจะถามต่อ มีธุระอะไรล่ะ

      ก็ผมคิดถึงคุณพี่ เลยมาหา

      เหรอ

      ทำไมคุณพี่ไร้เยื่อใยกับผมแบบนี้ล่ะ ผมจริงจังกับคุณพี่นะการ์ตูนว่า ทำหน้าน้อยใจ แต่หมอกใสก็ไม่ได้ตอบอะไร นอกจากหัวเราะหึๆ ในลำคอ จากนั้นก็มองหน้าการ์ตูนนิดหนึ่งอย่างค้นหา และก็ได้เห็นถึงความจริงจังและมุ่งมั่นที่ฉายชัดในแววตา หมอกใสเสมองไปทางอื่นอย่างเขินๆ แต่การ์ตูนก็ยังเห็นว่าสีหน้าของพี่สาวเพื่อนสนิทเริ่มเป็นสีแดงระเรื่อ เขาจึงรุกต่อทันที

      จริงๆ นะคุณพี่ ผมชอบคุณพี่จริงๆ หมอกใสจึงหันกลับมาพร้อมกับพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติก่อนจะตอบ

      ขอบใจนะสำหรับความรู้สึกนั้น ฉันจะรับไว้พิจารณาก็แล้วกัน พูดจบก็เดินขึ้นไปชั้นบน การ์ตูนมองร่างนั้นจนลับตาก่อนจะพึมพำกับตัวเอง

      ผมจะต้องทำให้คุณพี่มารักผมให้ได้

      เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเป็นครั้งที่สามของวัน หมอกใสคว่ำจานใบสุดท้ายก่อนจะเช็ดมือแล้วกดรับ

      ว่าไง

      (คุณพี่กินข้าวเย็นเสร็จแล้วใช่มั้ย)

      เสร็จแล้ว

      (ผมโทรมาตรงเวลาดีมั้ย)

      ดีมาก โทรมาเวลาเดียวกันเป๊ะๆ กับเมื่อวานเลย หมอกใสบอกพร้อมรอยยิ้มขำ ตลอดสัปดาห์มานี้นายตูนโทรหาเธอทุกเวลาหลังอาหาร ยกเว้นว่าเธอจะสั่งไว้ว่าไม่ให้โทรมารบกวนเวลาเรียน จนกลายเป็นความเคยชินไปซะแล้วที่หลังจากกินข้าวเสร็จ เสียงโทรศัพท์ก็จะดังเหมือนตั้งใจ และคนที่โทรมาก็ไม่ใช่ใคร นายการ์ตูนเจ้าเก่าเจ้าเดิม

      (ผมคิดถึงคุณพี่นะ แล้วก็เริ่มจะรักคุณพี่แล้วด้วย) นายตูนบอกก่อนจะวางสาย นี่ก็เป็นอีกอย่างที่หมอกใสเริ่มจะชิน เพราะนายตูนจะบอกเหมือนเดิมซ้ำๆ ทุกวันว่าคิดถึง และก็เริ่มจะรักเธอแล้ว แต่หมอกใสก็ไม่เคยพูดอะไรออกไปนอกจากคำว่า อืม และการ์ตูนเองก็ไม่เคยเซ้าซี้เอาคำตอบ

      พี่หมอก เสียงไอน้ำดังขึ้นด้านหลัง หมอกใสหันกลับไปมองพลางเลิกคิ้วถาม

      มีอะไรน้องรัก

      พี่หมอกชอบไอ้ตูนมันหรือเปล่าคำถามแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยของน้องชายทำเอาหมอกใสอึ้ง แต่ก็ตอบออกไปตามที่ใจคิด

      ไม่รู้สิ บอกไม่ถูกเหมือนกัน

      แล้วพี่หมอกรู้สึกยังไงเวลาคุยกับไอ้ตูน ไอน้ำถามต่อทันที

      ก็ดีนะ คุยกับนายตูนแล้วสบายใจดี

      นอกจากไอ้ตูนแล้วพี่หมอกคุยกับคนอื่นหรือเปล่า

      ไม่มีหรอก พี่ไม่ค่อยให้เบอร์ใครสุ่มสี่สุ่มห้า มีแต่เราน่ะแหละที่ชอบเอาเบอร์พี่ไปแจก หมอกใสแกล้งตีหน้าดุพร้อมกับใช้นิ้วชี้จิ้มหน้าผากน้องชายไปทีหนึ่ง

      ผมไม่ได้เอาไปแจกนะพี่หมอก ให้ไอ้ตูนคนเดียวเอง เพราะเห็นว่าท่าทางมันจะชอบพี่หมอกจริงๆ ไม่เหมือนคนอื่น

      หมอกใสขมวดคิ้วนิดหนึ่งกับคำพูดของน้องชาย ไอน้ำจึงอธิบายต่อ เมื่อก่อนเคยมีผู้หญิงมาจีบไอ้ตูนตั้งหลายคน มันก็คุยด้วยแต่ก็ไม่ได้คบกับใคร เพราะมันบอกว่ายังไม่ใช่ จนวันนั้นที่มันมาเจอพี่หมอกนั่นแหละ มันเพ้อถึงพี่ทั้งวันเลยนะว่าพี่นี่แหละคือคนที่มันรอ จบคำพูดของน้องชาย หมอกใสก็เกิดอาการเขินขึ้นมาอย่างกะทันหันจึงทำเป็นพยักหน้ารับรู้สองสามทีก่อนจะเดินหนีขึ้นห้องนอน

      วันนี้เป็นวันเสาร์ การ์ตูนนัดหมอกใสออกมาดูหนังด้วยกัน ตอนแรกหมอกใสอิดออด อ้างว่ามีงานต้องทำ แต่พอการ์ตูนตื๊อบ่อยเข้าเลยต้องยอมมาตามคำขอร้องแกมบังคับ ตอนนี้หมอกใสกำลังยืนรอการ์ตูนซื้อป๊อปคอร์น สักพักก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาทัก

      หมอกใสใช่ไหมครับ หมอกใสมองคนตรงหน้าอย่างงงๆ แต่ก็ตอบรับ

      ใช่ค่ะ

      ผมชื่อแทนนะ เรียนอยู่คณะเดียวกับคุณ แต่คนละเอก เขาแนะนำตัวอย่างเขินๆ หมอกใสยิ่งงงหนักเข้าไปอีกกับอาการแปลกๆ ของเขา

      ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จัก

      คุณมาดูหนังคนเดียวเหรอครับ เขาถามพลางมองซ้ายมองขวา หมอกใสอ้าปากจะตอบแต่ก็มีเสียงหนึ่งขัดขึ้นเสียก่อน

      มาดูกับแฟน มีอะไรมั้ย การ์ตูนเดินถือป๊อปคอร์นเข้ามาด้วยสีหน้าไม่พอใจ

      แฟนหมอกใสเหรอ แทนถามพลางชี้ไปที่การ์ตูน แต่เขาปัดมือแทนออกอย่างเคืองๆ ก่อนตอบ

      ใช่ ผมเป็นแฟนหมอก การ์ตูนบอกพร้อมกับก้าวเข้าไปยืนเคียงข้างหมอกใส แทนที่เริ่มรู้สึกถึงความกดดันที่ผู้ชายตรงหน้าส่งมาให้จึงเอ่ยขอตัวแล้วเดินจากไป

      พอแทนเดินออกไปจนพ้นรัศมีการได้ยินหมอกใสก็หันมาโวยคนข้างตัวทันที นายพูดอะไรออกไป!”

      พูดอะไร ผมก็พูดความจริงไง เขาตอบหน้าตาย

      ความจริงบ้าบออะไร ฉันไปเป็นแฟนนายตอนไหนไม่ทราบ!” หมอกใสเริ่มขึ้นเสียง

      คุณพี่เป็นแฟนผมมาเกือบสามอาทิตย์แล้ว ตั้งแต่วันแรกที่เราเจอกันนั่นแหละ

      ตลกแล้ว ฉันยังไม่เคยพูดสักคำว่าเป็นแฟนนาย

      ไม่เห็นจำเป็นเลย เพราะยังไงคุณพี่ก็เป็นแฟนผม ถึงแม้ว่าคุณพี่จะยังไม่ยอมรับผมเป็นแฟนก็เถอะ คำตอบของการ์ตูนทำให้หมอกใสพยักหน้านิดหนึ่งอย่างเข้าใจในความหมาย สีหน้าที่เคยบึ้งตึงจึงอ่อนลง

      เข้าไปข้างในดีกว่า หมอกใสบอกก่อนจะเดินนำไป

      พอออกจากโรงหนัง เสียงแรกที่หมอกใสได้ยินคือเสียงแหลมๆ แสดงความดีใจของผู้หญิงคนหนึ่ง ตูน ตูนมาดูหนังเหรอ ผู้หญิงคนนั้นส่งเสียงเรียกพลางวิ่งผ่านหน้าหมอกใสเข้าไปกอดแขนการ์ตูนอย่างสนิทสนม การ์ตูนมีท่าทีตกใจนิดหนึ่งก่อนจะคลี่ยิ้มออกมา

      อืม ผมมาดูหนัง

      แล้วตูนมาดูหนังกับใครเหรอ มาคนเดียวแน่เลย เพราะตูนชอบดูหนังคนเดียว พูดพลางเอียงหน้าไปซบไหล่การ์ตูน หมอกใสมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทั้งตกใจ สงสัย และ...ไม่พอใจ

      ...บ้าไปแล้วยัยหมอก ไม่เห็นมีอะไรที่ต้องไม่พอใจเลย...

      ผมมากับ...อ้าว ตูนชี้มือไปตรงที่หมอกใสยืนอยู่ แต่กลับไม่มีใครสักคน

      ใครเหรอคะ กี้ไม่เห็นมีใครเลย อีกฝ่ายทำหน้าสงสัย แต่การ์ตูนไม่ตอบ กลับดึงมือมาร์กี้ออกแล้วผละออกไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้มาร์กี้ยืนงงอยู่ที่เดิม

      ตูน จะไปไหน?

      คุณพี่! คุณพี่!” การ์ตูนวิ่งไปพลางตะโกนเรียกเสียงดังจนคนแถวนั้นหันมามองเขาเป็นตาเดียว แต่การ์ตูนก็ไม่สน ยังคงตะโกนเรียกหมอกใสต่อไป คุณพี่! อยู่ไหนน่ะ

      การ์ตูนวิ่งตามจนทั่วแต่ก็ไม่เจอแม้แต่เงาของหมอกใส พอโทรไปก็ไม่เปิดเครื่อง ในใจเขาเริ่มกระวนกระวาย เดินไปเดินมาอย่างคนที่ควบคุมตัวเองไม่ได้

      อย่าเป็นอะไรไปนะคุณพี่ เขาพึมพำด้วยความเป็นห่วง

      การ์ตูนเดินหาอีกพักใหญ่แต่ก็ยังไม่เจอเหมือนเดิม เขาจึงโทรเข้ามือถือของเพื่อนรัก และทันทีที่ปลายสายกดรับ เขาก็รัวคำพูดออกไปทันที

      ตอนนี้คุณพี่หายไปไหนก็ไม่รู้! แกฟังให้ดีนะ ฉันออกมาจากโรงหนังกับคุณพี่ แล้วมาร์กี้เข้ามาทักฉัน ฉันคุยกับยัยนั่นไปแค่สองสามคำ หันกลับมาอีกทีคุณพี่ก็หายไปแล้ว ฉันวิ่งตามหาแทบจะทั่วห้างแต่ก็ไม่เจอ แกช่วยหน่อย

      เฮ้ย!!” ไอน้ำร้องเสียงหลงทันทีที่การ์ตูนพูดจบ ก่อนจะตั้งสติได้แล้วบอก เดี๋ยวฉันช่วยหา ใจเย็นๆ พูดจบก็กดวางสายไป การ์ตูนมองไปรอบๆ ตัวอีกครั้ง หวังจะเจอหมอกใส แต่ท่ามกลางผู้คนที่เดินผ่านไป กลับไม่มีใครที่ใจต้องการ

      โทรศัพท์ดังขึ้นขณะที่การ์ตูนกำลังเดินหาหมอกใสเป็นรอบที่เท่าไหร่ของวันก็ไม่รู้ คนที่โทรมาคือไอน้ำ การ์ตูนจึงกดรับทันที

      เจอมั้ย?

      ตอนนี้พี่หมอกกลับมาถึงบ้านแล้ว เดี๋ยวฉันจะถามเขาให้ว่าไปไหนมา

      เออๆ เดี๋ยวฉันตามไป พูดจบก็กดตัดสายด้วยความโล่งอก รอยยิ้มผุดขึ้นมาอีกครั้งด้วยความยินดี

      คุณพี่อยู่ไหน? พอมาถึงการ์ตูนก็ถามหาหมอกใสทันที ไอน้ำไม่ตอบ แต่กลับดึงมือเพื่อนให้ตามมาที่ห้องนั่งเล่น

      แกไปทำอะไรให้พี่หมอกโกรธหรือเปล่า

      ทำอะไรล่ะ ไม่ได้ทำอะไรเลย ขนาดอยู่ในโรงหนังฉันยังไม่แตะเนื้อต้องตัวคุณพี่เลยสักนิด

      แล้วทำไมพี่หมอกทำท่าเหมือนไม่พอใจแก

      คุณพี่บอกเหรอว่าไม่พอใจฉัน

      ไม่ได้บอก แต่ถามอะไรก็ไม่ตอบ ทำหน้าบึ้งอย่างเดียวเลย การ์ตูนคิดถึงสาเหตุที่อาจจะทำให้หมอก ใสโกรธ

      หรือเขาจะหึงฉัน การ์ตูนหันไปมองหน้าเพื่อนอย่างขอความเห็นก่อนจะเล่าต่อ เพราะมาร์กี้เข้ามากอดแขนฉัน คุณพี่อาจจะหึงฉันก็ได้นะ แล้วก็เลยหนีกลับมาที่บ้าน

      พี่หมอกเขาชอบแกหรือไง ทำไมฉันดูไม่เห็นออก

      แกจะไปรู้อะไร พักหลังๆ มานี่คุณพี่หน้าแดงบ่อยจะตายเวลาอยู่กับฉันน่ะ การ์ตูนบอกพร้อมรอยยิ้ม ในใจนึกไปถึงใบหน้าสวยใสที่มักจะเป็นสีแดงเรื่ออยู่บ่อยๆ เวลาที่เขาพูดถึงความรู้สึกของตัวเอง แต่เพียงแค่ไม่นานเจ้าตัวก็จะพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติแล้วแกล้งเปลี่ยนเรื่อง ซึ่งเขารู้ดี อาการแบบนี้ที่เขาเรียกกันว่า...เขิน

      แน่ใจเหรอ?

      ความเป็นไปได้ค่อนข้างสูง การ์ตูนตอบโดยที่ยังไม่ยอมหุบยิ้ม

      ให้เขาอยู่คนเดียวไปก่อนแล้วกัน คืนนี้ฉันจะโทรมาง้อ การ์ตูนบอกก่อนจะหมุนตัวเดินกลับออกไป ไอน้ำมองตามหลังเพื่อนสนิทพลางคิดในใจ

      ...หวังว่าแกคงจริงจังกับพี่สาวฉันนะ...

      เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเป็นครั้งที่สิบสี่ หมอกใสมองที่หน้าจอ เมื่อเห็นว่าเป็นใครก็ไม่สนใจ ปล่อยให้มันดังอยู่อย่างนั้น จนไอน้ำที่นั่งอยู่ใกล้ๆ เริ่มจะทนไม่ไหว

      ทำไมพี่หมอกไม่รับโทรศัพท์สักที ปล่อยให้มันดังอยู่ได้ ผมหนวกหูนะ

      พี่ไม่อยากรับ หมอกใสตอบสั้นๆ ด้วยความขุ่นเคือง ความไม่พอใจเมื่อตอนบ่ายยังคงมีอยู่

      ...คนอะไร บอกว่าชอบบอกว่าจริงใจอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วไปให้ผู้หญิงคนอื่นกอดแขนได้ยังไง...

      พี่หมอก รับเหอะ ไอน้ำบอกอีกครั้ง หมอกใสมองโทรศัพท์มือถืออย่างชั่งใจสักพักจึงกดรับสายอย่างเสียไม่ได้

      ฮัลโหล

      (คุณพี่ วันนี้หายไปไหนมา ผมตามหาแทบแย่) น้ำเสียงแสดงความเป็นห่วงเป็นใยของการ์ตูนทำให้หมอกใสเผลอยิ้มออกมาอย่างลืมตัว แต่เมื่อเห็นสายตาของน้องชายเธอก็รีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติก่อนจะตอบกลับไปเสียงขรึม

      ฉันจะไปไหนมันก็เรื่องของฉัน

      (เรื่องของคุณพี่ได้ยังไง ผมเป็นห่วงนะ)

      จะเป็นห่วงทำไม เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย

      (ก็ผมบอกแล้วไงว่าคุณพี่เป็นแฟนผม) การ์ตูนรีบเถียง

      ฉันน่ะเหรอแฟนนาย ไม่ใช่คนที่วิ่งมากอดนายด้วยความคิดถึงหรอกเหรอ บอกประชดอย่างหมั่นไส้ สีหน้าไม่พอใจอย่างชัดเจน ไอน้ำที่นั่งอยู่ใกล้ๆ จึงเสลุกไปทางอื่นเพื่อเปิดโอกาสให้ทั้งสองคนเคลียร์กัน

      (คุณพี่หึงผมจริงๆ ด้วย)

      หึงบ้าหึงบออะไรล่ะ ฉันจะไปหึงนายทำไมกัน เถียงกลับทันควัน แต่สีหน้าเริ่มเข้มขึ้นเรื่อยๆ โดยที่เจ้าตัวไม่รู้สึก

      (ถ้าไม่หึงแล้วทำไมต้องไม่พอใจด้วย)

      ก็... หมอกใสเริ่มอึกอัก ก็นายมัวแต่คุยกับแฟนนายจนลืมฉัน เถียงข้างๆ คูๆ ทำให้การ์ตูนยิ้มขำๆ

      (ใช่แฟนผมซะที่ไหน กี้เค้าเป็นเพื่อนสมัยประถมต่างหาก) การ์ตูนอธิบาย (เราก็แค่สนิทกันมากเท่านั้นเอง)

      แล้วไงล่ะ

      (ก็ไม่แล้วไงหรอก พอผมจะแนะนำให้คุณพี่รู้จัก คุณพี่ก็หายไปแล้ว ผมตามหาซะจนทั่วห้าง ปวดขาไปหมดแล้วเนี่ย) ประโยคหลังแกล้งทำเสียงอ่อยหวังจะให้หมอกใสสงสาร แต่หมอกใสก็ไม่คิดจะสงสารเลยสักนิด

      สมน้ำหน้า ใครใช้ให้ตามหาล่ะ

      (ไม่มีใครใช้หรอก ผมก็แค่เป็นห่วง) คำตอบของการ์ตูนทำให้หมอกใสอึ้งไปอีกครั้ง ใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงจัดด้วยความเขินกับคำพูดตรงๆ ของเขา หัวใจเต้นแรงอย่างควบคุมไม่อยู่

      กะ...ก็เรื่องของนาย

      (ฮ่าๆ เขินอยู่เหรอ) คำถามเหมือนรู้ทันของอีกฝ่ายทำเอาหมอกใสชะงักก่อนจะตอบกลับเสียงเรียบ

      ไม่ได้เขิน ฉันไม่สนใจหรอกนะว่านายจะห่วงหรือไม่ห่วงฉัน เพราะมีคนอื่นที่เป็นห่วงฉันมากกว่านายอีกเยอะแยะ จบคำพูดที่ไม่ทันคิดของหมอกใส การ์ตูนนิ่งไปอย่างคาดไม่ถึง หมอกใสที่รู้สึกว่าการ์ตูนเงียบไปนานจึงเรียก

      นายตูน ยังอยู่หรือเปล่า

      (อยู่ครับ) การ์ตูนบอกเสียงเบาเพราะยังอึ้งอยู่ หมอกใสเมื่อได้ยินว่าการ์ตูนยังฟังอยู่ก็ค่อยโล่งใจ

      ฉันนึกว่านายวางไปแล้วเสียอีก

      (ผมคงจะวางแล้วล่ะ ไม่รบกวนคุณพี่แล้ว) พูดจบการ์ตูนก็กดวางสายทันที ทิ้งให้คนปลายสายมองโทรศัพท์ในมืออย่างไม่เข้าใจ

      เป็นอะไรเนี่ย นึกจะวางก็วาง

      สามวันแล้วที่การ์ตูนไม่ได้โทรมาหา ไม่ไปที่บ้าน ไม่ไปรอหน้าคณะเหมือนเดิม หมอกใสเริ่มรับรู้ถึงความผิดปกติ อยากจะโทรไปถามแต่ก็ไม่กล้า จะถามน้องชายก็กลัวจะโดนแซว จึงได้แต่เก็บเงียบอยู่คนเดียว สมาธิที่เคยมีก็ไม่รู้หายไปไหน จากที่เคยฟังอาจารย์สอนรอบเดียวแล้วเข้าใจ กลับกลายเป็นอาจารย์ต้องย้ำอยู่หลายรอบกว่าจะรู้เรื่อง เพื่อนสนิทที่เห็นถึงอาการแปลกๆ ของหมอกใสจึงเอ่ยถามด้วยความห่วงใย

      เป็นอะไรหรือเปล่าหมอก สองสามวันมานี้ดูเหม่อๆ นะ

      เปล่าหรอก ไม่ได้เป็นอะไร หมอกใสตอบพร้อมยิ้มบางๆ ส่งให้

      แน่ใจเหรอ แต่เราว่าหมอกดูแปลกๆ นะ สติไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว มีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า

      เปล่า ไม่มีอะไร

      มีปัญหากับแฟนเหรอ คำถามนี้ทำเอาหมอกใสชะงักไปนิดหนึ่ง รู้ดีว่าอาการแปลกๆ ที่ตัวเองเป็น แม้ไม่ได้เกิดจากมีปัญหากับแฟน เพราะยังไม่ได้เป็นแฟนกัน แต่มันก็ไม่ต่างกันนัก

      ไม่มีอะไรหรอก ช่วงนี้แค่รู้สึกไม่ค่อยสบายน่ะ เรากลับก่อนนะ พูดจบก็เดินแยกออกมาจากกลุ่มเพื่อน ด้วยกลัวจะหลุดปากพูดออกไปว่าไม่ค่อยสบาย...ใจ

      หมอกใสเดินใจลอยอยู่ตรงบริเวณสวนหย่อมข้างตึกคณะ แทนที่แอบมองอยู่นานแล้วจึงเดินเข้ามาถาม

      เป็นอะไรหรือเปล่า? หมอกใสสะดุ้งนิดหนึ่ง พอเงยหน้ามองแล้วเห็นว่าเป็นแทนจึงยิ้มให้

      เปล่าหรอก แค่เบื่อๆ น่ะ

      ทะเลาะกับแฟนเหรอ? ...มาอีกแล้ว...คำถามนี้... หมอกใสคิดในใจอย่างขมขื่น ก่อนจะเงยหน้าตอบ

      เปล่าหรอก พอดีช่วงนี้เรียนหนัก

      เหรอ งั้นผมขอเดินเป็นเพื่อนนะ

      ขอโทษนะ แต่หมอกกำลังจะกลับบ้านแล้ว

      อืม งั้นเดี๋ยวผมไปส่งที่ป้ายรถเมล์ หมอกใสอยากจะบอกว่าไม่ต้องแต่ก็เห็นใจแววตาอ้อนวอนของเขา จึงพยักหน้ารับแล้วเดินออกไป

      การ์ตูนที่แอบมองอยู่นานแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด คนนี้ใช่ไหม ที่เป็นห่วงคุณพี่มากกว่าผม

      วันนี้เป็นวันหยุด หมอกใสตั้งใจไว้ว่าจะไปเดินเล่นที่สวนรถไฟ แต่ขณะที่กำลังจะออกจากบ้าน เธอก็เหลือบไปเห็นแผ่นหลังอันคุ้นเคยที่ไม่รู้ว่ามันติดตาตั้งแต่เมื่อไหร่กำลังเดินหายลับไปตรงมุมถนน หมอกใสจึงรีบวิ่งตามไปอย่างตื่นเต้น

      พี่หมอกจะรีบไปไหนน่ะ? เสียงไอน้ำตะโกนถามมาจากในบ้าน แต่หมอกใสไม่คิดจะตอบ ยังคงวิ่งตามแผ่นหลังนั้นไปอย่างมีความหวัง หวัง...ว่าจะเป็นเขา

      ...เราจะอยากเจอนายนั่นไปทำไมกัน... หมอกใสหยุดวิ่งและต่อว่าตัวเองในใจ เมื่อมองไปข้างหน้าอีกครั้ง ผู้ชายคนนั้นก็หายไปแล้ว

      ...เลิกเพ้อเจ้อได้แล้วยัยหมอก นายนั่นจะมาทำไมแถวนี้... บอกกับตัวเองอย่างนั้นก่อนจะโบกแท็กซี่ไปที่สวนรถไฟด้วยอาการใจลอย

      เมื่อไปถึงสวนรถไฟ หมอกใสก็อยากจะกลับเสียเดี๋ยวนั้น เพราะคนส่วนใหญ่ที่นี่ มักจะเดินเคียงกันไปเป็นคู่ๆ ไม่ก็มากันเป็นครอบครัว คงจะมีแต่เธอเพียงคนเดียวเท่านั้นที่มาคนเดียว แต่เพราะความตั้งใจที่มีตั้งแต่เช้าจึงทำให้หมอกใสตัดสินใจไปเช่าจักรยานมาขี่เล่น...เพียงลำพัง

      เมื่อได้มาขี่จักรยานมองสีเขียวขจีของหญ้าและต้นไม้ ความรู้สึกห่อเหี่ยวและไม่สบายใจก็หายไป มีเพียงความเบิกบานเข้ามาแทนที่ สักพักเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น หมอกใสกดรับแทบจะทันที

      มีอะไรเหรอไอน้ำ ร้อยวันพันปีน้องชายคนนี้แทบไม่เคยโทรหา ถ้าโทรมาคงมีแต่เรื่องไม่ดีแน่ๆ

      (ช่วงนี้พี่หมอกคุยกับไอ้ตูนมันอยู่หรือเปล่า?) หมอกใสนิ่งไปนิดหนึ่งก่อนจะตอบตามความจริง

      เปล่า ไม่ได้คุยตั้งแต่เสาร์ที่แล้ว

      (อาทิตย์นึงแล้วสิ)

      อืม

      (แล้วพี่หมอกเจอมันบ้างหรือเปล่า)

      ไม่เจอเลย ทำไมเหรอ

      (เปล่าหรอก แต่โทรไปหาแล้วมันไม่ยอมรับสาย ช่วงนี้มันก็ดูเศร้าๆ ผมเลยสงสัย) หมอกใสไม่ได้ตอบอะไร ไอน้ำจึงพูดต่อ (ผมนึกว่าวันนั้นพวกพี่สองคนเคลียร์กันเรียบร้อยแล้วเสียอีก ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้)

      เป็นแบบไหน?

      (ก็แบบที่เป็นอยู่นี่ไง พี่หมอกชอบเหม่อ ส่วนไอ้ตูน วันๆ ก็เอาแต่เล่นบอล ไม่สนใจอะไร พอถามก็บอกแต่ว่ามันอกหัก อย่ามายุ่ง) คำตอบของไอน้ำทำให้น้ำตาของหมอกใสแทบจะไหลออกมา แต่เธอก็กลั้นมันไว้

      แค่นี้ก่อนนะ พูดจบก็กดวางสาย คิดตามคำพูดของน้องชาย

      ...ส่วนไอ้ตูน วันๆ ก็เอาแต่เล่นบอล ไม่สนใจอะไร พอถามก็บอกแต่ว่ามันอกหัก...

      หมอกใสจึงตัดสินใจกดโทรศัพท์หาการ์ตูน เสียงรอสายดังอยู่สักพักการ์ตูนก็รับสาย

      (สวัสดีครับ)

      เอ่อ... พอได้ยินเสียงเขา ความมั่นใจก็เริ่มจะหดหาย หมอกใสเงียบไปนานจนการ์ตูนต้องพูดอีกครั้ง

      (ฮัลโหล)

      นายตูน ฉันเองนะ หมอกใส

      (ครับ)

      นายสบายดีมั้ย?

      (ผมสบายดี) คำตอบเรียบๆ นั้นทำเอาหมอกใสแทบร้องไห้

      ทำไมนายทำเสียงแบบนี้ล่ะ

      (เสียงผมเป็นแบบนี้ จะให้ทำแบบไหน)

      ตูน... หมอกใสเรียกชื่อเขาเสียงเครือ นายเป็นอะไรไป

      (ผมไม่ได้เป็นอะไรหรอก ผมก็เป็นแค่เพื่อนของน้องชายคุณเท่านั้นเอง) ความห่างเหินในน้ำเสียงและคำพูดของเขาทำให้หมอกใสนิ่งไปอีกครั้ง รู้สึกเจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูก

      (ผมไม่ใช่แฟนคุณนี่ ไม่ใช่คนที่เป็นห่วงคุณมากที่สุด) มาถึงตรงนี้หมอกใสจึงเริ่มเข้าใจ นายตูนคงเก็บคำพูดของเธอไปคิดมาก จนกลายเป็นแบบนี้ แล้วก็ไม่ยอมโทรมาหา ไม่ไปหาที่บ้านเหมือนอย่างเคย...เด็กน้อย...

      โธ่เอ๊ยเด็กน้อย... หมอกใสพูดขำๆ เรื่องแค่นี้เองเหรอที่ทำให้นายไม่โทรหาฉัน

      (เรื่องอะไรแค่นี้?) เสียงปลายสายถามอย่างไม่เข้าใจ หมอกใสจึงอธิบาย

      ก็เรื่องนี้ไง ที่นายบอกว่าไม่ใช่คนที่เป็นห่วงฉันมากที่สุด แสดงว่านายคิดมากกับคำพูดของฉันวันนั้นใช่มั้ย นายถึงไม่ติดต่อฉันเลย เด็กน้อย... วันนั้นที่ฉันพูดไปเพราะประชดต่างหาก

      (ประชด? งั้นก็แสดงว่าคุณพี่หึงผมจริงๆ น่ะสิ) การ์ตูนบอกเสียงร่าเริงทันที

      อะไร ใครหึงใครหมอกใสแกล้งถามเสียงขรึมทั้งที่ในใจกำลังสั่น

      (ก็คุณพี่ไงหึงผม)

      ฉันจะไปหึงนายทำไม หึงเรื่องอะไร

      (ก็หึงเรื่องที่มาร์กี้มาเกาะแขนผมไง)

      บะ...บ้าสิ ฉันจะไปหึงนายทำไม หมอกใสว่า หน้าแดงขึ้นมากะทันหัน

      (ก็เพราะ...) การ์ตูนแกล้งหยุด หมอกใสจึงคะยั้นคะยออย่างลืมตัว

      เพราะอะไร?

      (ก็เพราะ...คุณพี่ชอบผมยังไงล่ะ) คำตอบนั้นทำให้สีหน้าของหมอกใสเข้มขึ้นกว่าเดิม และลามไปจนถึงใบหูและลำคอ

      มั่วแล้ว ฉันน่ะเหรอชอบนาย หมอกใสรีบเถียง

      (ทำไมคุณพี่ไม่ยอมรับความจริง)

      ใครบอกว่าฉันไม่ยอมรับ แต่มันไม่ใช่ความจริงต่างหากล่ะ

      (ถ้าไม่ใช่แล้วคุณพี่ชอบใคร)

      ฉัน... หมอกใสเงียบไปอย่างใช้ความคิด

      ...จะให้บอกได้ยังไงล่ะเด็กบ้า...

      (ว่ายังไงล่ะ ถ้าไม่ชอบผมแล้วคุณพี่ชอบใคร)

      ไม่มี

      (ถ้าไม่มีแล้วใครทำให้คุณพี่ไม่มีสมาธิเรียน ใครทำให้คุณพี่ชอบเหม่อลอย ใครทำให้คุณพี่ต้องไปเดินเตะฝุ่นอยู่คนเดียวทุกเย็น) คำพูดของการ์ตูนทำให้หมอกใสอึ้งอีกแล้ว

      นายรู้ได้ยังไงหมอกใสถามเสียงดังอย่างลืมตัว

      (ทำไมจะไม่รู้ ก็ผมแอบมองคุณพี่อยู่ทุกวัน) คำตอบตรงๆ นั้นทำให้ใบหน้าที่สีเริ่มจะอ่อนลงกลับเข้มขึ้นอีกครั้ง

      บ้า! นายไม่มีอะไรทำหรือไงถึงเที่ยวมาแอบมองฉันน่ะ

      (มีสิ ทำไมจะไม่มีอะไรทำ ผมมีเรื่องต้องทำเยอะแยะ แต่ผมก็ยังอยากแอบมองคุณพี่)

      นายคงบ้าจริงๆ นั่นแหละ

      (อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าแต่คุณพี่ยังไม่ตอบคำถามผมเลยนะ)

      คำถามอะไร ฉันลืมไปแล้ว หมอกใสแกล้งเฉไฉ แต่มีหรือการ์ตูนจะยอม

      (ก็ที่ผมถามว่าถ้าคุณพี่ไม่ได้ชอบผมแล้วคุณพี่ชอบใคร)

      ไม่มี ฉันไม่ได้ชอบใครทั้งนั้นแหละ

      (จริงเหรอ?)

      ก็จริงน่ะสิ หมอกใสยืนยันเสียงเข้ม

      (คุณพี่ไม่ได้ชอบผมเหรอ)

      เปล่าซะหน่อย

      (เปล่าแล้วทำไมต้องหน้าแดงด้วย) หมอกใสยกมือจับแก้มตัวเองทันทีและรู้สึกได้ถึงความร้อนบนใบหน้า แต่ก็ยังไม่ยอมรับ

      นายเอามาจากไหนว่าฉันหน้าแดง

      (ก็ผมเห็นอยู่ว่าคุณพี่หน้าแดง ตอนนี้ก็กำลังจับแก้มตัวเองอยู่ด้วย) หมอกใสหันไปมองรอบตัวทันทีที่การ์ตูนพูดจบ แต่ก็ไม่เห็นมี

      นายอยู่ตรงไหน?

      (อยู่ในหัวใจคุณพี่ไง)

      ไม่ตลก นายอยู่ไหน?

      (ก็บอกแล้วว่าอยู่ในหัวใจคุณพี่ ไม่เชื่อลองมองมาข้างหน้าสิ) หมอกใสทำตามทันที แต่ก็ยังไม่เห็น

      ไหนล่ะ?

      อยู่นี่ไง เสียงนั้นไม่ได้ดังมาจากโทรศัพท์ แต่ดังมาจากด้านหลัง หมอกใสหันกลับไปมองก็เห็นการ์ตูนยืนยิ้มโชว์ฟันขาวอยู่แล้ว

      มาตั้งแต่เมื่อไหร่?

      มาถึงพร้อมคุณพี่นั่นแหละ

      แสดงว่านายสะกดรอยตามฉันเหรอ บังอาจมากนะ หมอกใสว่าพลางทุบอกเขาทีหนึ่ง แต่การ์ตูนกลับจับมือหมอกใสไว้แล้วบอกยิ้มๆ

      ผมไม่ได้สะกดรอยตาม ผมตามมาแบบปกตินี่แหละ แต่คุณพี่มัวแต่เหม่อเลยไม่รู้ตัว หมอกใสคิดตามคำพูดของการ์ตูนก่อนจะยิ้มออกมาอย่างอายๆ

      ตกลงว่าไงการ์ตูนถามพลางขึ้นขี่จักรยานของหมอกใสแล้วพยักหน้าให้เธอมานั่งตาม

      ว่าอะไร? หมอกใสถามพร้อมกับขึ้นนั่งซ้อนท้าย

      ก็คุณพี่ชอบใคร ชอบผมหรือเปล่า

      หมอกใสทำเสียง ฮื้อ แต่ก็ไม่ยอมตอบคำถาม

      ถ้าคุณพี่ไม่บอกงั้นผมบอกเองนะ

      บอกอะไร?

      ก็บอกว่าผมรักคุณพี่ไง นายตูนบอกพร้อมกับหันมายิ้มให้ หมอกใสรับรู้ได้เลยว่าตอนนี้ใบหน้าของตัวเองคงจะกลายเป็นสีแดงจัดแล้วแน่ๆ แถมหัวใจก็ยังเต้นแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

      นะ... นายแน่ใจเหรอ

      แน่ใจสิ ผมรักคุณพี่นะ การ์ตูนพูดย้ำอีกครั้งก่อนจะหันมาถาม

      แล้วคุณพี่ล่ะ รักผมบ้างหรือเปล่า?

      เอ่อ... หมอกใสอึกอัก

      ถ้ารักก็บอกว่ารัก ถ้าไม่รักก็บอกมาเลยว่าไม่ ผมจะได้ตัดใจ ปลายประโยคนั้นน้ำเสียงของการ์ตูนดูเศร้าจนหมอกใสรู้สึกได้ หมอกใสเงียบไปพักหนึ่งเพราะไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง การ์ตูนหันกลับมามองหน้าเธออีกครั้งแล้วหันกลับไปมองถนนอย่างเดิมด้วยแววตาเศร้าๆ

      หมอกใสสูดหายใจเข้าเต็มปอดก่อนจะยกแขนโอบรอบเอวของการ์ตูนแล้วเอียงหน้าซบกับแผ่นหลังกว้างแล้วบอก

      ฉันก็รักนาย

      การ์ตูนรู้สึกได้ถึงอาการใจเต้นรัวในอก เขาใช้มือซ้ายจับมือของหมอกใสที่กอดเอวตัวเองอยู่ บีบกระชับเบาๆ พร้อมให้สัญญา

      ผมจะรักคุณพี่เท่าชีวิตของผม จะไม่ทำให้คุณพี่เสียใจ...สัญญา

      ฉันก็จะรักนาย... รักเท่าที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะสามารถรักผู้ชายคนหนึ่งได้เหมือนกัน

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×